ผ่าดวงเลข 7 ตัว ฉบับมหากาพย์ ครั้งที่ 31 ตอน เรื่องของผัวๆเมียๆ( ต่อ )

โดยหมอชิต บางบำหรุ  sutthapichit@yahoo.co.th , tridheva@hotmail.com,

โทร.092-7808336, 095-7126400, 081-6182021

          สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาวโหราเวสม์ และแฟนคลับบทความของหมอชิตฯ ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่ได้อุดหนุน 1. หนังสือเลข 7 ตัวทักษากาลโยก ฉบับประยุกต์ และ 2. หนังสือสุดยอดเคล็ดลับ และดวงตัวอย่างอีก 50 ดวง สำหรับเล่มแรกซื้อได้ที่เขษมบรรณกิจ ส่วนเล่มสองสั่งซื้อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ข้างต้น และผมขอขอบคุณท่านที่ได้โทรมาถามรายละเอียดเรื่องการสัมมนา ซึ่งผมประมาณการได้ว่าน่าจะจัดกันประมาณเดือนพฤษภาคม 2557 รายละเอียดการสัมมนาประกอบด้วยวิชาหลักของสถาบัน คือ 1. วิชาเลข 7 ตัว 4 ฐาน ในรูปแบบของอาจารย์นภา วรบุตร และ 2. วิชาเลข 7 ตัวทักษากาลโยก หรือกาลโยกพิสดาร สายอาจารย์ประภาส สุทธิภาคย์  โดยทางสถาบันจะจัดให้มีการอบรมสัมมนา 2 หลักสูตร  พร้อมออกวุฒิบัตรรับรองคือ
          1. วิชาเลข 7 ตัว 4 ฐาน เทคนิคการพยากรณ์ และเคล็ดลับ พร้อมด้วยเลข 7 ตัวพิสดาร 1 วัน 5 ชั่วโมง โดยอาจารย์รุ้งแสงวรรณ  และทีมงาน และ
          2. วิชาเลข 7 ตัวทักษากาลโยก หรือกาลโยกพิสดาร อีก 1 วัน 5 ชั่วโมง โดยผมอาจารย์หมอชิต บางบำหรุ และทีมงาน
          ในราคาหลักสูตรละ 3,000.- บาท สำหรับท่านที่สมัคร 2 หลักสูตร  ทางสถาบันก็คิดค่าสัมนาในราคาพิเศษ รวม 2 หลักสูตร 2 วันรวม 5,000.- บาท ราคานี้รวมค่าอาหารกลางวัน และกาแฟและอาหารว่างด้วย  หากท่านสนใจก็สมัครผ่านผมที่อีเมล์ sutthapichit@yahoo.co.th ,  tridheva.hotmail.com ได้เลยครับ  เอาละครับทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องผัว ๆ เมียๆ หรือดาวปัตนิ ในรูปแบบของเลข 7 ตัว ที่ผมได้มาจากสาย 7 ตัว 9 ฐาน ก่อนอื่นผมขอว่าด้วยเรื่องทฤษฎีก่อน ดังนี้
                ในเลข 7 ตัว แกนหลักของดวงเราแบ่งออกเป็น 3 หลักคือ
          1. หลักที่ 1 เป็นหลักของดาวอัตตะ/ตนุ/และมรณะ ในหลักนี้หมายถึงตัวของเจ้าชะตา
          2. หลักที่ 4 เป็นหลักของดาวปิตา/พันธุ/ลาภะ หลักนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นฐานถิ่นกำเนิด ญาติพี่น้อง บรรพบุรุษ ครอบครัว  ในกรณีที่ยังไม่แต่งงาน และเมื่อแต่งงานแล้ว หลักนี้หมายถึงชีวิตครอบครัวของเจ้าชะตา
          3.หลักที่ 7 เป็นหลักของดาวมัชฌิมา/ปัตนิ/และทาสี(ทาสา) หลักนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเพศตรงข้าม   คนรัก/คู่ครอง  สิ่งที่จะเข้ามาเกี่ยวพันกับเจ้าของดวง  แบ่งออกเป็นรูปแบบใหญ่ ๆ        3 รูปแบบคือ

          หลักที่ 1 หลักนี้และครับเป็นหลักสำคัญเพราะมีดาวมัชฌิมา/ปัตนิ/ทาสีอยู่ เราแยกพยากรณ์เป็น 3 แบบ  
1. ถ้าเป็นเลขเบิ้ลบน คือ ดาวจันทร์ 2 เป็นมัชฌิมา/ปัตนิ ให้ทายว่าเจ้าของดวงจะต้องมีคู่ครอง หรือคนรักชอบพอกันในชีวิตไม่น้อยกว่าสองคน
          คนแรกเป็น 2 มัชฌิมา เราก็ทายว่าจะต้องเป็นเพศตรงข้ามที่มีคุณวุฒิ/วัยวุฒิ/ชีวิตความเป็นอยู่/ฐานะ ที่ดีกว่า/หรือสูงกว่า อย่างใดอย่างหนึ่ง
          คนที่สองเป็น 2 ปัตนิ คนนี้แหละครับจะเป็นคนที่เป็นเนื้อคู่/หรือคู่แท้ หรืออยู่กินด้วยกันกับเจ้าชะตา
2. เลขเบิ้ลล่าง คือดาวจันทร์ 2 เป็นปัตนิ/ทาสี ให้ทายเช่นเดียวกันว่าชีวิตจะต้องมีคนรัก/คู่ครอง หรือคนรักชอบพอในชีวิตไม่น้อยกว่าสองคน
          คนแรกเป็น 2 ปัตนิ  ทายว่าจะต้องเป็นเพศตรงข้ามที่มีคุณวุฒิ/วัยวุฒิ/ชีวิตความเป็นอยู่/ฐานะ ที่เท่าเทียมกันกับเจ้าชะตา อย่างใดอย่างหนึ่ง
          คนที่สองเป็น 2 ทาสี ทายว่าเป็นเพศตรงข้าที่มีคุณวุฒิ/วัยวุฒิ/ชีวิตความเป็นอยู่/ฐานะที่ด้อยกว่าเจ้าชะตา อย่างใดอย่างหนึ่ง
3. เลขหาม คือดาวจันทร์ 2 เป็นมัชฌิมา/-/ทาสี เราก็ทายเช่นเดียวกันว่าชีวิตต้องผ่านการมีคนรัก/คู่ครอง/หรือคนรักชอบพอในชีวิตไม่น้อยกว่าสองคนเช่นเดียวกัน
          คนแรกเป็น 2 มัชฌิมา เราก็ทายว่าจะต้องเป็นเพศตรงข้ามที่มีคุณวุฒิ/วัยวุฒิ/ชีวิตความเป็นอยู่/ฐานะ ที่ดีกว่า/หรือสูงกว่า อย่างใดอย่างหนึ่ง
          คนที่สองเป็น 2 ทาสี ทายว่าเป็นเพศตรงข้าที่มีคุณวุฒิ/วัยวุฒิ/ชีวิตความเป็นอยู่/ฐานะที่ด้อยกว่าเจ้าชะตา อย่างใดอย่างหนึ่ง
          ในข้อที่ 3 นี้ผมใช้ทายมาเป็นร้อยเป็นพันดวงแล้วไม่ค่อยพลาด โดยเฉพาะดวงคุณผู้หญิง สำหรับดวงผู้ชายแทบไม่ต้องทายเลย เพราะผู้ชายต้องเคยผ่านความรักไม่น้อยกว่า 1 หรือ 2 มาก่อนแน่นอน แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันเพราะสมัยนี้เพราะเป็นยุคประชาธิปไตย ชายหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกันใช่ไหมครับ
          แล้วไอ้ที่ว่าคนรัก/คู่ครองระดับไหน ถึงจะเรียกว่าคู่รัก เราก็ใช้หลักพิจารณาซิครับว่า คนทั้งสองได้อยู่กินด้วยกัน หรือใช้ชีวิตร่วมกัน เรียกว่าเมื่อแยกจากกันแล้วก็ยังระลึกถึงกัน เรียกว่าจำแบบไม่ลืมกันเลย หรือภาษาชาวบ้านบอกว่า “ จากกันแล้ว/ร้องไห้แบบน้ำตาเป็นเผาเต่ากันเลยละครับ ”
หลักที่ 2. หลักนี้ได้จากเก็บตกจากอาจารย์ฯ เกี่ยวกับเรื่องของคนแต่งงานช้าหรือไม่แต่งงานเลย
เป็นเรื่องของดาวแห่งโทษทุกข์ หรือเทพเจ้าแห่งดาวบาปเคราะห์ คือดาวเสาร์ 7 เข้าไปอยู่ในหลักที่ 1 คือภพของอัตตะ/ตนุ/มรณะ และหลักที่ 7 คือภพของมัชฌิมา/ปัตนิ/ทาสี รวมทั้งฐานที่ 4 หรือฐานผลรวมของฐานวัน/เดือน/ปี ที่รองรับดาวอัตตะ/ตนุ และดาวปัตนิ เป็นดังนี้
          1. สำหรับดวงคนที่ไม่แต่งงานนั้น จะต้องประกอบไปด้วยดาวเสาร์ 7 เสีย 4 ประการ คือ
                                1.1 เสาร์สูง ได้แก่ 7/10,  7/12,  7/13,  7/14,  7/18,  7/19, 
                   1.2 เสาร์เสีย ได้แก่ 7 ชนเสีย เช่น ชน หินะ อริ มรณะ พยายะ
                                1.3 เสาร์พันตัว (อัตตะ ตนุ ตั้งอยู่บนฐาน 7  10  12 )
                   1.4 เสาร์พันคู่ (ปัตนิ ตั้งอยู่บนฐาน 7  10  20  ) และกรณีที่ อัตตะ ตนุ หรือ ปัตนิเป็นดาวเสาร์อยู่บนฐาน 12 ก็ให้ถือว่าเป็นเสาร์พันคู่ด้วยเหมือนกัน
          2. สำหรับเสาร์ดังต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นเสาร์สูง ได้แก่   7/15,  7/17,  7/9,  7/21  ปัตนิชนทาสาถ้าฐานดี ถือว่าคู่มีอยู่มีกินดี   มีเงินเดือนหรือตำแหน่งหน้าที่การงานดี รับราชการ   มีเงินเดือนดี แต่ถ้าฐานที่รองรับไม่ดี จะได้เนื้อคู่หรือคนรักพื้นฐานต่ำกว่า/ด้อยกว่าเจ้าชะตา
                ในหลักที่สองนี้เป็นเพียงหลักเดียวที่เอามาจากเก็บตกจากอาจารย์ฯที่ผมได้มาเอาไว้สำหรับถ่ายทอดให้เพียงบางส่วน และเคล็ดลับนี้ผมจะให้อาจารย์รุ้งแสงวรรณ ใส่ไว้ในหนังสือเลข 7 ตัวพิสดารของท่าน ทีนี้คงเข้าใจแล้วว่าทำไมเลข 7 ตัวพิสดารถึงได้เอาอังคะวิชาธาตุ มาใส่ไว้ในฐานที่ 6 และ 7 ในเลข 7 ตัวพิสดาร เพื่อจะได้เอาเคล็ดลับของวิชาเลข 7 ตัว 9 ฐานมาใส่ไว้ในวิชาเลข 7 ตัวพิสดารด้วย 
          อย่างเช่นตัวอย่างว่าดวงใดถ้าดาวปัตนิ ตรงกับนาวัง เนื้อคู่เป็นคนต่างชาติ ต่างภาษา หรือต่างศาสนา ต่างถิ่นต่างแดน อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ
          เห็นไหมครับจะเห็นได้ว่าเลข 7 ตัว 9 ฐาน จะมีสูตรตายตัวไว้เป็นหลักสำคัญ ๆ ในการทายดวงไม่ว่าจะเป็นพื้นดวง หรือการทายจร ด้วยดวงเลข 7 ตัวอย่างเดียว โดยไม่เอาตัวอื่นมาปนเลย ก็สามารถยืนหยัดเป็นวิชาเลข 7 ตัวหลัก วิชาหนึ่งที่ยืนยาวมาอยู่จนทุกวันนี้  และผมยังเรียนให้อาจารย์รุ้งแสงวรรณ เอาทักษาในรูปแบบของทักษาพม่า มอญ หรือทักษาสมเด็จ มาใช้คู่กับทักษาสยาม ทำให้วิชานี้เรียกชื่อว่า “ เลข 7 ตัวพิสดาร ” ให้สมกับชื่อที่เรียกว่าพิสดารไงล่ะ เหมือนกับวิชาเลข 7 ตัวทักษากาลโยก ที่สายเราเรียกกันว่า “ กาลโยกพิสดาร ” ไงครับ
          ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องทฤษฎีของการทายเรื่องปัตนิ ซึ่งคุณสามารถนำเอาไปใช้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ อย่างเช่นเดียวกันกับตัวผมเอง ต่อไปเราก็จะมาพูดกันถึงเรื่องดวงตัวอย่างต่อไป  โดยผมจะขออนุญาตใช้ดวงตัวอย่างครั้งที่แล้วมาพิจารณาต่อนะครับ 

ตัวอย่าง  ดวงชะตาของหญิงที่เกิด วันอังคาร เดือนสาม ปีฉลู พ.ศ.2506

          ในที่นี้ผมจะอธิบายเรื่องคนรัก/คู่ครอง หรือดาวปัตนิเป็นหลักนะครับ
          1. ก่อนอื่นขอทายดวงนี้ว่าดาวคนรัก/คู่ครอง คือดาวปัตนิ/และมัชฌิมา เป็นเลขเบิ้ล/หรือเลขตัวเดียวกันคือดาวจันทร์ 2 จึงทายว่าดวงนี้ต้องมีคนรัก/คู่ครอง หรือมีความรัก/และอยู่กินด้วยกันกับปัตนิ สองครั้ง/สองคน รายละเอียดคนแรก และคนที่สองตามหลักทฤษฎีข้างต้น
          2. ดาวอังคาร 3 เป็นอัตตะ/ตนุ เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เสียหาย เพราะอังคาร 3/ตั้งอยู่บนฐาน 11 ราชาโชค และเป็นศุภะอีกด้วย ต่อไปเราก็ตามดาว 3 ที่เป็นดาวอัตตะ/ตนุ ไปรองรับดาวจันทร์ 2 ในฐานมรณะ ในดวงนี้ก็คือกำลังของดาวอังคาร 8(3) หรือ 2/8(3) ที่เรามองเห็น
          กำลังดาวอังคาร 8(3) ที่รองรับดาวจันทร์ 2 ในภพมรณะ โยงไปถึงดาวปัตนิ /และมัชฌิมา จึงไปเข้าหลักของตำนานนิทานชาติเวร ว่าระหว่างตัวเจ้าชะตา/กับคนรักคู่ครอง เพราะดาวอัตตะ/ตนุเป็นดาว 3 และกำลังของดาวอังคาร 3 คือ 8 ไปรองรับ 2 ดาวปัตนิ/และมัชฌิมา
          คู่ดาว 2/8(3) เป็นดาวคู่ชู้/คู่ระแวง และฐานที่ 5 ดาวจันทร์ 2 ปัตนิ/เป็นอุบาทว์ แถมในทักษาเป็นกาลี อีกด้วย จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องชีวิตคู่ของหญิงคนนี้ เพราะในความเป็นจริงดวงนี้มีคู่มากกว่าสองคนอีก และปัจจุบันอยู่คนเดียว และอายุเธอย่าง 65 ปีแล้ว ก็ขอให้ภายภาคหน้า/หรือภพหน้าถ้ามีจริง ก็ขอให้เธอเกิดมามีดวงชะตาที่ดี ดาวมัชฌิมา/ปัตนิ/ทาสี ไม่เป็นเลขเบิ้ลบน/หรือล่าง หรือหามเลยนะครับ  ขอให้โชคดีครับ
                                           หมอชิต  บางบำหรุ 095-7126400, 092-7808336