ผ่าดวงเลข 7 ตัว ครั้งที่ 15/2555 ที่สุดของชีวิต
โดยหมอชิต บางบำหรุ โทร. 083-8472555, 089-0040060
สวัสดีครับท่านสมาชิกชาวโหราเวสม์ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 15/2555 ที่ผมได้มาพบกับท่านอีกครั้งหนึ่ง หมายเลข 15 อันหมายถึงกำลังของพระจันทร์ ตามความหมายของตำราครูอาจารย์โดยเฉพาะผมจะใช้ของท่านอาจารย์นภา วรบุตร และสายอาจารย์สำนักวัดสามพระยา เป็นหลัก ซึ่งได้ให้ความหมายไว้ดังนี้ ถ้ากำลังของพระจันทร์ตั้งอยู่บนฐานอาตมา หรืออีกความหมายหนึ่งคือ หลักที่ 1 ฐานวัน เดือน ปี บวกกันรวมกันได้ 15 หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ดาวอัตตะ-ตนุ-มรณะ รวมกันได้เท่ากับ 15 อันหมายถึงกำลังของพระจันทร์ ท่านได้บอกไว้ว่าเป็นบุคคลที่มีรูปจริตจิตใจเป็นสตรีเพศ ทำไมถึงเป็นสตรีเพศ ก็เพราะในตำนานนิทานชาติเวร ท่านกล่าวไว้ว่า พระจันทร์ คือนางฟ้าทรงม้าสีขาวนวล 15 ตน ประจำอยู่ทิศบูรพา ดังนั้นไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดาวอัตตะ-ตนุ-มรณะ ตั้งอยู่บนฐานดาวจันทร์ จะเป็นคนที่ส่อไปในทางอิสสตรีเพศ ถ้าเป็นชายและถ้ามีดาวจันทร์เข้ามาเกี่ยวด้วย เช่นมีดาวจันทร์เป็นอัตตะ หรือเราเรียกว่าเกิดวันจันทร์ หรือเดือนเกิดเป็นดาวจันทร์ เรียกอีกอย่างว่าดาวตนุเป็นดาวจันทร์ด้วย ก็ยิ่งจะทำให้ชายเหล่านี้มีแนวโน้มค่อนข้างจะไปทางสตรีเพศ หรือภาษาสมัยนี้เรียกว่าสาวประเภทสองไงล่ะครับ หรือบางคน อัตตะ-ตนุ-มรณะ และฐานบวกที่สี่ ไม่มีดาวจันทร์มาเกี่ยวเลย แต่มีดาวอาตมา หรือไส้ดวงเป็นดาวจันทร์ ก็จะทำให้บุคคลเหล่านั้นมีเรื่องราวของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยว เช่น ทำงานบ้านเก่ง ทำอาหารเก่ง มีความเป็นแม่ เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ปกครองดูแล เรื่องราวงานในบ้านอย่างดียิ่ง เป็นต้น
ก่อนอื่นผมก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนหนังสือเลข 7 ตัวทักษากาลโยก ฉบับประยุกต์ทุกท่าน และคาดว่าอีกไม่นาน ฉบับทายจรอย่างเดียวก็คงจะออกมาพบกับท่าน ซึ่งคาดว่าจะไม่มีทฤษฎีเลย หรือมีก็จะมีแนบอยู่ท้ายดวงตัวอย่าง และถ้าใครเห็นว่าดวงใด แปลก ๆ ก็ลองส่งวันเดือนปี มาให้ผมลองขยายความกันดูก็ได้นะครับ อ้อแล้วก็เห็นถามหากันมามากถึงเรื่องทายดวง หรือจะขอดูหมอ ก็สามารถติดต่อนัดวันเวลา เพื่อพยากรณ์กันก็ได้ หมายเลขโทรศัพท์ก็อยู่ข้างบน หรือใครสนใจจะเรียนไปเพื่อทำเป็นอาชีพ ก็ติดต่อขอสมัครเรียนมาได้นะครับ รุ่นละไม่เกิน 5 คน ไม่ว่าคุณจะมีสถานที่เรียนแล้วติดต่อผมให้ไปสอน หรือติดต่อมาจองไว้เมื่อครบ 5 คนแล้วผมก็จะนัดมาเรียนก็ได้ ถ้าสนใจก็เชิญนะครับ ถ้าถามว่าไม่มีเงินเรียนได้ไหม ตอบว่าเรียนได้ จบแล้วไปทายเมื่อได้เงินแล้วค่อยมาไหว้ครูทีหลังก็ได้ หรือจะซื้อตำราไปเรียนก่อนก็ได้ แล้วมาทบทวนเพื่อทำเป็นอาชีพภายหลัง แล้วถ้าถามว่าถ้าไม่มีเงินซื้อหนังสือ จะขอหนังสือไปเรียนได้ไหม ก็ขอตอบว่าได้ แต่ขอสิทธิที่จะจัดให้เป็นรายบุคคล โดยขอพิจารณาเป็นราย ๆ ไปนะครับ เพราะผมเองกว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็มีต้นทุนเหมือนกัน และทุกวันนี้อายุก็มากแล้ว แต่ก็พยายามยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
อันกำลังพระจันทร์ หรือเลข 15 ความหมายทั่วไป หมายถึงคนเจ้าชู้ ถ้าตั้งอยู่บนฐานอัตตะ-ตนุ-มรณะ แต่ถ้าไม่เจ้าชู้ โดยเฉพาะท่านผู้หญิงก็จะเป็นคนมีเสน่ห์ ถึงแม้ไม่สวย ก็จะเป็นคนเรียบร้อย เก่งงานบ้านงานเรือน หรือทำอาหารเก่ง นั่นเป็นข้อดี ส่วนข้อเสียคือเป็นคนจิตใจอ่อนไหว ขี้สงสารคน ชอบตามใจคนปฏิเสธไม่ค่อยเป็น บางครั้งเป็นคนโลเลเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ชอบตามใจตัวเอง ถ้าใครจับจุดถูกก็มีโอกาสได้อยู่ใกล้ หรือได้ไว้เป็นคู่แน่นอน แต่ถ้าคนเกิดวันจันทร์ ดาวอาทิตย์เป็นกาลีละก็จะเป็นคนที่มีทิษฐิแรงกล้า บางครั้งยอมหักไม่ยอมงอ เจ้ายศเจ้าอย่าง บ้าตำแหน่ง อะไรในทำนองนี้
ทีนี้ถ้าเป็นความหมายโดยตรงของท่านอาจารย์นภาฯ ทายพื้นดวงหมายถึง สังคมรอบข้าง ให้คุณทางการคล่องตัว การปรับปรุงรูปโฉม การบริการ ประชาชน สำหรับการทายจร หมายถึงได้รับผลดีทางการวิจัย ทางการประมง และทางโภชนากร การขนส่งทุก ๆ ทาง เกี่ยวกับการบริการประชาชนดีทุกชนิด
สำหรับความหมายของโหราศาสตร์ยูเรเนียน จะหมายถึง สตรี ประชาชน ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าท่านอาจารย์นภาฯ ท่านก็ได้นำความหมายของยูเรเนียน และโหราศาสตร์สากล มาใช้สำหรับการตีดาวด้วย
แสดงว่าท่านก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์ดวงจักรราศี ถ้าจำไม่ผิดเคยได้ยินว่าท่านก็เป็นเพื่อนกับอาจารย์หมอเถาว์ฯ หรืออาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ทางโหราศาสตร์ไทย และเจ้าของตำราโฮ๋ราสาด ซึ่งเป็นตำราโหราศาสตร์ไทยที่เป็นอมตะไปแล้ว
เอาละครับทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องดวงตัวอย่างของคนที่มีดาวอาตมาเป็นดาวจันทร์ 2 กันเลยนะครับ
ดวงตัวอย่าง พระฯท่านเกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2499 เกิดวันจันทร์ เดือน 12 ปีวอก ( 2 ) เวลา 04.42 น.
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
1
|
|
๑
|
(๒)
|
๓
|
|
6/๗
|
5/๖
|
7/๑
|
|
5
|
6
|
7
|
1
|
2
|
3
|
4
|
|
๖
|
55
|
๔
|
|
|
3/๔
|
|
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
1
|
|
๘
|
๕
|
๗
|
|
4/๕
|
1/๒
|
2/๓
|
|
9
|
12
|
15
|
11
|
14
|
17
|
6
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2
|
5
|
1
|
4
|
7
|
3
|
6
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผมพยากรณ์ก่อนวันที่ 16 เมษายน 2555 ซึ่งปีกาลโยกยังเป็นเศษ 1 อยู่ปรากฏว่าผมทายย้อนหลังก่อนและทายได้ถูกต้อง เหมือนครูโหรท่านช่วยให้ผมตั้งดวงปีกาลโยก เป็นเศษ 1 ก่อน เพราะก่อน 16 เมษายน 2555 ท่านให้ใช้กาลโยกปี 2554 จึงตกเศษ 1 ทีนี้เรามาเริ่มพยากรณ์กันเลยนะครับ
ทายพื้นดวง
ข้อ 1. ดาวอัตตะ-ตนุ-มรณะ ตั้งอยู่บนฐาน 9 อย่างนี้เราต้องทายว่าดวงนี้เป็นดวงที่มีลางสังหรณ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แต่จะเป็นที่แปลก ๆ ในบางครั้ง และเป็นคนที่เข้าใจยาก ชีวิตบทถ้าดาวมรณะซึ่งตั้งอยู่บนฐาน 9 ซึ่งเป็นพระเกตุ เป็นกาลีหรือโลกาวินาศเมื่อไร เมื่อนั้นดวงนี้ชีวิตก็จะเกิดความผันผวนทันที และก็เป็นจริงดังที่ทำนาย เพราะขณะที่ทำนายดาวจันทร์ 2 ก็ตกโลกาวินาศ จึงทำให้ท่านต้องมาบวชเป็นพระไงครับ
ข้อ 2. 2 อัตตะ-บริวาร-โลกาวินาศ/9 ( เกตุ ) ฐานที่ 5 เป็นอาตมาด้วย พอเริ่มเปิดดวงก็ทายไม่ออกแล้วครับ เผอิญเหลือบไปเห็นดาวอัตตะเป็นปุตตะและเป็นมรณะในเลข 7 ตัวก็เลยทายไปว่า ชีวิตของเจ้าชะตาในวัยเด็กต้องกำพร้า หรือพลัดพรากจากบิดามารดา อย่างใดอย่างหนึ่ง และต้องตกระกำลำบากเพราะในกาลโยกเป็นโลกาวินาศ และต้องจากถิ่นที่อยู่ไปอยู่ยังอีกที่หนึ่ง และแถมยังมีโรคประจำตัวอีกด้วย เพราะดาวอัตตะเป็นมรณะ และทำอะไรมักจะทำตามใจตัวเอง เพราะดาวอัตตะเป็นตัวเดียวกับดาวอาตมา
และด้วยความที่เป็นคนเกิดเช้าวันอังคาร จึงต้องเอาดาวอังคารมาทายด้วย ดังนั้นจึงเป็นคนที่มีดาวอัตตะเป็น 2/3 คู่ชู้คู่ระแวง หรือเราจะทายว่าเป็นคนที่สังคมไม่ค่อยเชื่อใจ และคนที่มาคบหาสมาคมด้วยไม่แน่ใจคอยระแวงสงสัยอยู่ตลอดเวลา แถมยังเป็นคนเจ้าชู้ด้วยเพราะเป็นคน 2 วัน คือจันทร์กับอังคาร 2/3 คู่ชู้คู่ระแวง และท่านมีแนวโน้มมาเป็นดาวอังคาร 3 เอามาก ๆ เลยมีคู่ครองถึงสองคน คนแรกก็หย่ากันไป ส่วนคนที่สองก็เพื่อหย่ากันก่อนที่จะลาออกจากงานเพื่อไปบวช แต่ไม่มีบุตรด้วยกันเพราะดาวปุตตะเป็นมรณะ จึงเป็นคนไม่มีบุตร( บริวาร )
แถมดาวอังคาร 3 เป็นหินะและอริ เราก็แปลว่าเป็นคนที่ดื้ออย่างแรง และความดื้อเป็นปัญหาเพราะเป็นอริ ในกาลโยก และเป็นศุภะก็คือความก้าวหน้า ในชีวิตของตัวเอง 3/12 ดาว 3 กระทบ 12 กำลังพระราหู หรือราหูถึงแม้เป็นดาวคู่ธาตุก็จริง เราก็แปลว่าความมั่นคงของชีวิต หรือความดื้ออย่างแรงก็จะกระทบความมั่นคงของชีวิตเจ้าชะตา และความดื้อนี้เองเป็นเหตุให้ดวงนี้ไปไม่ถึงดวงดาวเพราะดาว 3 กระทบกับดาว 12 ( กำลังพระราหู ) เป็นดาวคู่ศัตรูในนิทานชาติเวรไงล่ะครับ
ข้อ 3. 5 ตนุ-มูลละ-มรณะ/11 ( ราชาโชค ) ฐานที่ 5 เป็นทาสา เป็นคนที่สร้างฐานะตัวเองให้มีความมั่นคงมีหลักมีฐาน เพราะดาวตนุเป็นมูลละ แต่ไม่ชอบออกสังคมฯ หรือทายว่าเป็นคนชอบเก็บเนื้อเก็บตัว เพราะตนุเป็นมรณะ และเป็นชอบวัดวาอาราม หรือฝักใฝ่ธรรมะ เพราะดาว 5 เป็นมรณะในกาลโยก สิ่งเหล่านี้เจ้าชะตาได้มาด้วยสติปัญญาความคิดของตัวเอง เอ้าแล้วทายอย่างนี้ดาวอะไรบอก ดาวไม่ได้บอกครับ แต่ภพในเลข 7 ตัวบอก คือ 5 ดาวตนุเป็นปิตา ปิตานอกจากใช้ทายปากแล้ว คือถ้าดาว 5 เป็นปากทายว่าเป็นคนพูดจริงทำจริง ปากชอบสั่งชอบสอน แล้วภพปิตานี้ยังใช้ทายความคิด แถมยังเป็นดาว 5 อันมีความหมายถึงสติปัญญาอีกด้วย เป็นไงครับเลข 7 ตัวนี่ไม่ใช่ธรรมดาเลยนะครับ ถ้าเรารู้จักใช้ แถมฐานที่ดาว 5 ตั้งอยู่นั้นเป็นราชาโชค คือเลข 11 ทุกอย่างได้มาด้วยความช่วยเหลือสนับสนุนของคนอื่น และโชคช่วยด้วย ชีวิตจะได้รับความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อย่างน้อย 2 ครั้ง เพราะฐานราชาโชค ทายว่าได้ก็จะได้เป็นคู่ เสียก็จะเสียเป็นคู่ ( ตามสไตล์ของสำนักอาจารย์เจษฎาฯปรมาจารย์ไงครับ ) อ้าวแล้วเมื่อไหรล่ะ ก็เมื่อดาวพฤหัสฯ เป็นศรี หรือเป็นอธิบดี ก็ได้ เพราะดาว 5 เป็นลาภะตั้งรับอยู่แล้วไงครับ
ข้อ 4. 2 มรณะ-บริวาร-โลกาวินาศ/9 ( เกตุ ) ฐานที่ 5 เป็นอาตมา ความหมายก็จะซ้ำกับข้อแรก แต่ถ้าเราจะแปลแบบรู้เรื่องแล้ว หรือหวยออกแล้วตีดวง ละก็เราก็ทายได้ว่าชีวิตในบั้นปลาย เจ้าชะตาต้องปลีกวิเวกตัวเองออกจากสังคม เพราะ 2 มรณะเป็นโลกาวินาศ เพื่อค้นคว้าหาสิ่งใหม่ ๆ อันเป็นสิ่งที่สำคัญที่เจ้าชะตาต้องการ เพราะเราเอาดาวปุตตะ(สิ่งใหม่ ๆ) กระทบลงที่ฐานที่ 14 คือจักรพรรดิ อันเป็นวิธีพิจารณาดวงแบบท่านอาจารย์นภาฯ ซึ่งท่านบอกไว้ว่าการวัดคุณสมบัติของดวงให้พิจารณาเอาจากการจับเอาดาวตัวนั้นกระทบฐาน ผมจึงเอาดาวปุตตะกระทบฐานที่ 4 คือ 2/14 ไงครับ ในทีนี้เราจะเปลี่ยนเป็นพิจารณาเป็นเรื่องบุตรบริวารของเจ้าชะตาก็ได้ เราก็จะทายว่า 2/14 2ปุตตะ/ฐาน14(จักรพรรดิ) ดวงนี้ถ้ามีบุตรบริวารก็จะทำตัวเหมือนจักรพรรดิ ซึ่งก็คือทำตัวเป็นเจ้านายประดุจจักรพรรดินั่นเอง หรือจะลองทายคุณสมบัติของคู่ คุณก็เอาดาวปัตนิ/กระทบฐานที่สี่ คือ 4 ปัตนิ/กระทบฐานที่สี่คือ 6 ( 1 ) กำลังของพระอาทิตย์ เราก็ทายว่าดวงนี้มีคู่ก็จะเป็นคู่แฝงคู่ซ้อนคู่ซ่อนเร้น หรือดวงนี้ถ้ามีคู่ก็จะมีทีเดียวสอง หรือมีอยู่แล้ว ก็ยังพยายามจะมีอีก แล้วมันจริงหรือที่ทายแบบนี้ จริงซิครับ เพราะดาว 4 ปัตนิเป็นขุมทรัพย์ในกาลโยก เราก็แปลว่าเป็นดวงที่มีเพศตรงข้ามเข้ามาเยอะ แถมคู่เป็นคู่เวรคู่กรรมกันเพราะดาว 4 เป็นกัมมะ แต่เป็นคนมีเงินเพราะ 4 เป็นธนัง และเป็นคนมีทรัพย์สินหลักทรัพย์ เพราะ 4 เป็นมหาโภคสมบัติ โอยอธิบายกันเสียยืดเยื้อจนหมดหน้ากระดาษแล้วละครับ สี่หน้าพอดีพอดี แต่ไม่ใช่โม้นะครับ เพราะการทายแบบที่ผมอ้างทั้งหมดมีในตำราครับ มีที่มาที่ไปครับ สำหรับการทายจรคราวหน้าเจอกันในฉบับต่อไปครับ สวัสดี
