หลักวิธีการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ไทย
แนวทางโหราศาสตร์ต่างประเทศ
โดยเฉพาะยูเรเนียน
จาก หมอชิต บางบำหรุ
ผู้อำนวยการสถาบันโหรวัดธาตุทอง
โทร. 02 – 8812002, 083 – 8472555 089 - 0040060
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านผมได้ว่างเว้นหายจากโหราเวสม์ไปเป็นเวลานานพอสมควร เพราะติดภารกิจ ในเรื่องของบทความทางเลขเจ็ดตัวผมได้หยุดไว้ในเรื่องความหมายของภพ/เรือนของเลขเจ็ดตัวไว้ก่อนสักระยะ ฉบับนี้จึงขอคั่นรายการด้วยดวงจักรราศี หรือโหราศาสตร์ไทย ตามแนวทางโหราศาสตร์ต่างประเทศ ( โดยเฉพาะยูเรเนียน ) ซึ่งผมจะเริ่มเปิดสอนในวันอาทิตย์ต้นเดือนกันยายน ที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๑ นี้ที่สถาบันโหรวัดธาตุทอง โดยเริ่มเวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นระยะเวลา ๓ เดือน หรือหนึ่งเทอม มีวุฒิบัตรมอบให้ โดยใช้ชื่อว่าโหราศาสตร์ไทยประยุกต์ จะเป็นผู้ที่มีพื้นฐานความรู้มาแล้ว หรือผู้ที่ไม่มีพื้นฐานเรียกว่าขาวสะอาดมาเลยก็ได้ สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานอาจจะเบื่อหน่อยช่วงระยะ ๒ ครั้ง แต่พอเริ่มต้นอาทิตย์ที่ ๕ หรือครั้งที่ ๕ ก็จะเริ่มบรรเลงกันเลย สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน หรือผู้ที่มาไม่ทันก็ให้เข้าเรียนในช่วงเช้าได้ฟรีในชื่อวิชาที่ว่า พื้นฐานโหราศาสตร์ไทย ( ระบบดาวและระบบเรือนชะตา และมุมสัมพันธ์ ) ก่อนก็ได้
โหราศาสตร์ในโลกนี้มีหลายระบบ แต่หลัก ๆ ใหญ่จะแบ่งกันด้วยปฏิทินที่ใช้ เท่าที่ปรากฎก็มี
๑. ระบบสายนะ หรือระบบสากล หรือเราเรียกว่าจักรราศี เมษเคลื่อนที่ ซึ่งปัจจุบันจุดเมษเคลื่อนที่ไปสู่ราศีกุมภ์แล้ว หรือเราเรียกว่าค่าอายนางศ์ แตกต่างจากปฏิทินของท่านปรมาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ประมาณ ๒๓ องศา ดาวต่าง ๆ เมื่อบันทึกในดวงแล้วจะห่างกันคนละราศีเลยทีเดียว
๒. ระบบนิรายนะ หรือลาฮิรี ปัจจุบันก็คือลงดวงโดยใช้ปฏิทินของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร หาซื้อได้ที่ร้านเขษมบรรณกิจ ซึ่งถ้าเราใช้ปฏิทินของท่านอาจารย์เทพย์ฯ ก็จะแตกต่างจากระบบสุริยยาตร์ของท่านอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว โดยเฉพาะดาวเดินเร็ว เช่น ดาวพุธ ดาวศุกร์ และลัคนา เช่นเดียวกันคุณก็สามารถหาซื้อได้ที่เกษมบรรณกิจ เช่นเดียวกัน
๓. ระบบสุริยยาตร์ ของท่านปรมาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว คือใช้การเดินทางของอาทิตย์ ซึ่งจริง ๆ ก็คือโลกเรานั่นเอง โดยในทางโหราศาสตร์เราสมมุติอาทิตย์เป็นโลก และโลกเป็นอาทิตย์ เพราะเราหยุดดาวทุกดวงไว้ในขณะที่เราเกิด เพื่อนำมาใช้พยากรณ์พื้นดวง หรือเราเรียกกันว่า การพยากรณ์กรรมเก่า
เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วในประเทศไทยโดยเฉพาะปฏิทินของท่านอาจารย์เทพย์ฯ และท่านอาจารย์ทองเจือฯ ว่าผูกดวงตามปฏิทินของแต่ละท่านแล้วใครจะทายแม่นกว่ากัน เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมว่าผูกดวงจากปฏิทินของท่านอาจารย์ฯอะไรก็ตาม มันก็ทายได้ทั้งนั้น ขอให้คุณกล้าทักกล้าทาย เพราะระบบโหราศาสตร์ไทยเรา เรียกว่า “ สายศิลป์ ” ขึ้นอยู่กับศิลปะและทักษะมากกว่า พอคุณเริ่มมีพื้นฐานแล้วต้องกล้าทายทายผิดทายถูกก็ไม่ต้องไปซีเรียส ถ้าแรกพอเริ่มมีความรู้ ก็อย่าเพิ่มไปคิดเงินเขาลองทายฟรี ๆ หรือเก็บเฉพาะค่าครู ( ถ้ากลัวเข้าตัวตามคำบอกเล่าของอาจารย์บางท่าน ) อย่าไปคิดเขาแพง และขอบอกว่าไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินเสียทองไปเรียนกับครูบาอาจารย์บางท่านที่ดัง ๆ ในวงการ เสียเงินเสียทองมากมายเป็นหมื่น ๆ หลายหมื่นบาท หลายคนที่ต้องมาให้ผมแก้ทางมวยให้ใหม่หมด
เพราะบอกได้เลยว่าวิชาโหราศาสตร์ไทยเราสืบทอดกันมา เดิมเป็นวิชาในรั้วในวัง ราษฎรเต็มขั้นอย่างเราไม่มีโอกาสได้เรียน เพิ่งจะมาเริ่มได้รู้ได้เห็นกันก็ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า รัชกาลที่ ๖ ของเรานี่เอง และวิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาที่อาศัยพอเลี้ยงตัวได้ อย่าเอาถึงขั้นร่ำรวยถึงขั้นตั้งตัวได้เพราะมันจะเป็นบาป ไม่เชื่อก็ลองไปถามครูบาอาจารย์เก่า ๆ ทางโหราศาสตร์สิว่า ตายโหงไปแล้วกี่คน และอีกประการหนึ่งขอบอก โหราศาสตร์ไม่ใช่เกมส์โชว์ มีกี่รายการมีหมอดูกี่คนที่เอาหมอดูไปออกอากาศแล้วอยู่ครบปี โหราศาสตร์ไม่มีการสาบาน ไม่มีการลบหลู่ ไม่มีการเกทับ เป็นเรื่องของเหตุผล เป็นเรื่องของประสบการณ์ มีขึ้นต้องมีลงไม่งั้นคงไม่มีภาษิตที่ว่า “ ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดจน ” บางทีชีวิตคนเรากลายเป็น “ ชั่วมันยันเจ็ดปี แต่ดีเพียงเจ็ดวัน ” ก็ยังมี และขอบอกอีกเป็นประการสุดท้ายว่าอย่าแค่ฟอร์ม การแต่งตัว หรือรูปแบบสำนักงานพยากรณ์ เพราะเหมือนมวยนะครับ แต่วตัวไหว้ครูสวย แต่เวลาชกไม่เอาอ่าว บอกได้เลยว่า โหรหมอดูเก่ง เหมือนคนเรียนเก่งได้เกียรตินิยม ไม่จำเป็นต้องสอนเก่งถ่ายทอดเก่ง และไม่จำเป็นต้องราคาแพง
ถ้าคุณเงินน้อยก็ซื้อเรียนโหรา ของอาจารย์เชย บัวก้านทอง ที่เกษมบรรณกิจก็ได้ และถ้ามีปัญหาอะไรก็สอบถามมาที่ผมได้ หรือจะไปนั่งคุยกันในวันเสาร์ อาทิตย์ ที่สถาบันโหรวัดธาตุทอง ก็ได้ อย่าลืมโทรนัดล่วงหน้านะครับ ไม่คิดสตางค์ หรือจะเข้าเรียนก็ได้ เพราะสามารถเอาดวงญาติโยม รวมทั้งดวงคุณขึ้นกระดานสอนกันเลย
ทีนี้ผมก็ขอเริ่มเรื่องหลักการอ่านดวงของชายที่มีชื่อเสียงโดย
๑. ท่านเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
๒. เป็นพรรคเดียวที่ได้จัดตั้งรัฐบาล
๓. ไม่ต้องเป็นนายกฯก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
๔. ใช้เวลาเดินทางในถนนการเมืองเพียงเวลาน้อยนิด
แต่เป็นวิจารณ์เพียงพื้นดวงนะครับ แต่เราก็พออ่านทางอนาคตได้ถูกมองทะลุ และบทความที่นำมาลงนี้ผมได้สอนศิษย์รุ่นแรกเมื่อประมาณเดือนเมษายน ๒๕๕๑ นี้เอง ไม่ใช่การดูดวงแบบหวยออกนะครับ คือเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แล้วเอาดาวมาปรับให้เข้ากับเหตุการณ์ และขอบอกว่าออกจากมันสมองของผมเองไม่ได้ใครที่ไหน หรืออ่านบทความทางโหราศาสตร์ใคร
การพยากรณ์พื้นดวงทางโหราศาสตร์ไทย
สิ่งที่ต้องใช้ในการพยากรณ์ประกอบด้วย
๑. สัญญลักษณ์ราศี ธาตุ ( ไฟ ดิน ลม น้ำ ) เพศ ( ชาย หญิง ) คุณะ( จรราศี ถึง อุภยราศี )
๒. มาตรฐานดาว ดาวเกษตร ปรเกษตร ( ประ ) อุจจ์ ( นิจ ) ราชาโชค มหาจักร์
๓. ความหมายคู่ดาว คู่ธาตุ คู่สมพล คู่มิตร คู่ศัตรู
๔. ความหมายของภพ หรือเรือน ( ตนุ ถึง วินาศ )
๕. ความหมายทางทักษา ( บริวาร ถึง กาลี )
การพยากรณ์พื้นดวง
๑. พิจารณาจากลัคนา
๑. ลัคนาอยู่ราศีอะไร
๒. สัญญลักษณ์คือราศีอะไร ( บุคลิก รูปร่าง นิสัย ) ของสัตว์ประจำราศีมาพยากรณ์
๓. ราศีนั้นเป็นธาตุอะไร คุณะประเภทไหน ( เอามาผสมความหมาย )
๔. ราศีนั้นมีดาวอะไรเป็นดาวเกษตร ดาวเกษตรนั้นไปอยู่ในภพ/เรือนอะไร ( ก็เอาความหมายภพ/เรือนมาผสม )
๕. ได้ตำแหน่งมาตรฐานอะไร ( เกษตร อุจจ์ ฯ ) หรือไม่ได้มาตรฐานอย่างไร
( ประ นิจ ฯ ) มีดาวอะไรกุม เล็ง โยค ตรีโกณ หรือเป็นเกณฑ์อย่างไร ( เอามาร่วมพิจารณา )
๖. ดาวเกษตรที่ลัคนาอยู่ไปอยู่ในภพเรือนอะไร ( ให้นำความหมายของภพเรือนมาร่วม
พิจารณาด้วย ) ได้ตำแหน่งมาตรฐาน หรือไม่ได้มาตรฐานอย่างไร มีดาวอะไรร่วมอยู่หรือเปล่า
( เอาความหมายของมาตรฐานดาวมาผสม รวมทั้งคู่ดาวด้วย )
๗. เอาความหมายของธาตุราศี และดาวมาร่วมพิจารณาด้วย
๒. พิจารณาจากเรือนเกณฑ์ ( ๑ ๔ ๗ ๑๐ )
ภพ/เรือนที่ ๑ ตนุ พิจารณาพื้นฐานชะตาชีวิต บุคลิกภาพนิสัย กรรมเก่า
ภพ/เรือนที่ ๔ พันธุ เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ บรรพบุรุษ ญาติพี่น้อง ครอบครัว
ภพ/เรือนที่ ๗ ปัตนิ ครอบครัว คู่ครอง
ภพ/เรือนที่ ๑๐ กัมมะ ภารกิจ การงาน อาชีพ การดำรงชีวิต
ภพ/เรือนทั้ง ๔ นี้เป็นพื้นฐานของชีวิตการดำรงตัวเองอยู่ในสังคมของมนุษย์ทุกคนจะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปชีวิตย่อมไม่สมบูรณ์
ดวงตัวอย่างที่ ๑
ชายเกิดวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๒ เวลาเกิด ๑๑.๑๕ จังหวัดเชียงใหม่
ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลู จ.ศ.๑๓๑๑
ลัคนาราศีกันย์
สัญลักษณ์ประจำราศีคือสาวพรหมจรรย์ คือความเป็นระเบียบเรียบร้อยความเนี๊ยบ รูปร่างหน้าตาสะอาดหมดจด เป็นคนพิถีพิถันในการแต่งกาย ลัคนาราศีกันย์เป็นภพอริของโลก หมายถึงปัญหาอุปสรรค ชีวิตเต็มไปด้วยการต่อสู้ มีปัญหาอุปสรรค ต้องต่อสู้ดิ้นรนจึงจะพบกับความสำเร็จ ดาวเกษตรประจำราศีกันย์คือดาวพุธ ๔ ดาวแห่งการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ดาวแห่งปฏิภาณไหวพริบ เป็นคนมีบุคลิกแคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว เป็นนักสื่อสารนักประชาสัมพันธ์ตัวยง ราศีกันย์หมายถึงส่วนบริเวณช่องท้อง ดังนั้นโรคภัยไข้เจ็บสำหรับคนราศีกันย์คือ โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้ ความเจ็บป่วยบริเวณส่วนท้อง โรคลมในท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ เพราะดาวพุธคือธาตุน้ำในทักษา และธาตุดินในราศีกันย์ดวงจักรราศี
ราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน อุภยะราศี เป็นดินที่ไม่นิ่ง ดินปลายธาตุ จึงเป็นบุคคลที่เอาแน่นอนไม่ได้ แม้กระทั่งการพูดจาสามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ตลอด ดาวพุธธาตุน้ำในอุภยะราศีเป็นน้ำที่ไม่นิ่งสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์ ดังนั้นการพูดการจาจึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ในทุกสถานการณ์
ดาวพุธ ๔ เป็นดาวเกษตรที่ลัคนาสถิตย์ และเป็นดาวเจ้าเรือนกัมมะด้วย จึงอ่านภพได้เป็น
๔ ตนุ + ๔ กัมมะ เป็นคนขยันขันแข็งเอางานเอาการ ดาวพุธ ๔ ไปลอยอยู่ในภพ ลาภะ
๔ ตนุ + ๔ กัมมะ + ๒ ลาภะ เป็นคนขยันขันแข็งเอางานเอาการ เป็นคนที่มุ่งมั่นจะสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองอย่างยิ่ง ๔ + ๒ ( เป็นดาวคู่มิตร ) ชีวิตจะประสบความสำเร็จเพราะได้รับความช่วยเหลือ และได้รับความร่วมมือ ( ดาวจันทร์ ๒ เป็นคู่มิตร หมายถึงผู้หญิง อารมณ์ ความนุ่มนวล อ่อนโยน เห็นอกเห็นใจ ประชาชน ) ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนรอบข้าง รวมทั้งบุคคลโดยทั่วไป อย่างมั่นคงอุดมสมบูรณ์ โดยตลอด ( เพราะดาวจันทร์ ๒ เป็นเกษตร เมื่อดาวจันทร์เป็นเกษตร ก็ไม่ต้องโยงภพ )
ตนุลัคน์เป็นดาวพุธ ๔ ตนุเศษเป็นดาวพุธ ๔ ตัวเดียวกัน เป็นคนที่คิดอะไรแล้วจะต้องทำตามอย่างที่ตัวเองคิดไว้ และส่วนใหญ่จะได้รับความสำเร็จเพราะลอยอยู่ในภพลาภะ
ทีนี้เรามาพิจารณาราศีกรกฎที่ดาวพุธ ๔ สถิตย์อยู่เพื่อขยายความหมาย เรื่องความสำเร็จ
๔ จับคู่กับดาว ๒ ( เป็นเกษตร ) เป็นดาวคู่มิตร ได้อธิบายไว้แล้ว ๒ เป็นเกษตรไม่ต้องโยงภพ ๒ เป็นเกษตรหมายถึงผู้หญิงที่มั่นคงอุดมสมบูรณ์ ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความสำเร็จ
๔ จับคู่กับดาวอาทิตย์ ๑ ( เป็นมหาจักร ) มาจากภพวินาศ ความสำเร็จที่ได้รับมาจากปฏิภาณไหวพริบความรู้ความสามารถ ( ๔ + ๑ คู่ปฏิภาณไหวพริบ ) ๑ อาทิตย์เป็นมหาจักรหมายถึงเกียรติชื่อเสียงได้รับการยกย่อง เป็นคนมีความสามารถ สติปัญญาหลักแหลม ๑ อาทิตย์มาจากเรือนวินาศ บางครั้งความรู้ความสามารถที่ใช้อาจเป็นเรื่องที่ผิด หรือเสียหายก็ได้
๑ อาทิตย์เป็นมหาจักรมาจากภพวินาศ เบื้องหลังความสำเร็จมีบุคคลที่มีอำนาจช่วยเหลืออย่างลับ ๆ หรือช่วยเหลืออย่างไม่เปิดเผยตัว หรืออาจเป็นชาวต่างชาติ ที่เป็นดาวอาทิตย์ อังกฤษ ญี่ปุ่น ฯ
ดาวอาทิตย์ ๑ จับคู่ ๒ ( เกษตร ) คู่ครัวเรือน อยู่ในเรือนลาภะ ( ความสำเร็จ ) หมายถึงในเรื่องความสำเร็จในชีวิตมีครอบครัว คู่ครองคอยให้ความช่วยเหลือ
พิจารณาจากมุมดาว
ลัคนาไม่มีดาวกุม
ลัคนามีดาวราหู ๘ เล็ง เป็นดวงพินธุบาทว์เรียกว่าดวงแตก ดวงร้าวเรื่องชีวิตคู่ แต่ในความจริงไม่ใช่ เพราะชีวิตคู่สมบูรณ์ แต่ดาวราหู ๘ เป็นดาวเจ้าเรือนอริ อริ + ปัตนิ ก็ต้องทายเป็นว่าในชาตาชีวิตต้องระมัดระวังความเดือดร้อนเพราะอุปสรรคปัญหาที่หุ้นส่วน เพศตรงข้าม หรือผู้ร่วมลงทุนก่อให้ ( โดยเฉพาะเรื่องของราหูคือเรื่องเสี่ยง ๆ เลี่ยงกฎหมาย หรืออบายมุข )
สาเหตุที่แม้ราหู ๘ เล็งลัคนาแต่ไม่เป็นคนดวงแตกเพราะ ดาววันเกิดเป็นอังคาร ๓ เป็นดาวคู่ธาตุกับราหู ๘ ในชีวิตจึงไม่เสียหายเรื่องคู่ครอง
ลัคนามีดาวพฤหัส ๕ ดาวเกตุ ๙ เป็น ๕ กับ ๙ คือเป็นตรีโกณกัน ชีวิตจะข้องเกี่ยวกับความรู้วิชาการที่ผิด ๆ เพราะดาวพฤหัส ๕ เป็นนิจ และเรื่องของชาวต่างชาติคือดาว ๙ และชีวิตจะเกิดความผันผวนเพราะ ( เพราะดาว ๙ คือความผันผวน ) ดาว ๙ อยู่ในเรือนของดาว ๖ เป็นศุภะ + กดุมพะ ไปลอยอยู่ในภพวินาศ จะเป็นเรื่องเสียหาย ( วินาศ ) เกี่ยวกับเรื่องการเงิน ( กดุมภะ )
พิจารณาจากภพที่ ๔ พันธุ
เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ บรรพบุรุษ แม่/พ่อ พี่น้อง ครอบครัว
ดาวพฤหัสฯ ๕ เป็นดาวเจ้าเรือนพันธุ และปัตนิ มาลอยอยู่ในเรือนปุตตะ ( เป็นนิจ )
ดาวพฤหัสฯ ๕ เป็นเรื่องของคุณธรรม ศาสนา ความยุติธรรม ใฝ่รู้ ปัญญา พ่อแม่ครอบครัวเป็นคนมีคุณธรรมเคร่งครัดในจารีตประเพณี ( เพราะดาวพฤหัส ๕ เป็นนิจ ) เป็นครอบครัวเล็ก ๆ
( ปุตตะ ) ดาวเจ้าเรือนปุตตะ ดาวเสาร์ ๗ มาลอยอยู่ในภพวินาศ สืบทอดมาจากบรรพบุรุษในถิ่นทางไกล ( วินาศ ) ๕ + ๗ ( คู่ค้าขาย ) ประกอบอาชีพค้าขาย โดยเฉพาะพืชไร่ หรือทำเกษตรกรรม
พิจารณามุมดาว ๕
ดาวพฤหัสฯ ๕ ไม่มีดาวกุม ( เป็นนิจ ) ประสบการณ์จากบรรพบุรุษ โดยเฉพาะความเคร่งครัดในจารีตประเพณี
ดาวพฤหัสฯ ๕ มีดาวพุธ ๔ เล็ง ดาวพุธมาจากเรือนกัมมะ และตนุ เป็นเรื่องที่ติดตัวมากับเจ้าชะตา เป็นลักษณะนิสัยที่เก็บเอามา เป็นส่วนประกอบในความสำเร็จในชีวิตของเจ้าชะตา จากพื้นฐานที่เก็บสั่งสมมาตั้งแต่เยาว์วัย
ดาวพฤหัสฯ ๕ มีดาวจันทร์ ๒ เป็นเกษตรเล็ง เป็นคู่ธาตุ ทำให้ชีวิตในครอบครัวประสบความสำเร็จในวัยปัจจุบัน
ดาวพฤหัสฯ ๕ มีดาวอาทิตย์ ๑ ( เป็นมหาจักร ) เล็ง ( ๕ + ๑ เป็นคู่มิตร ) จากพื้นฐานทางครอบครัว( พ่อแม่ ) และครอบครัวในปัจจุบัน ทำให้ชีวิตได้รับความสำเร็จ อาทิตย์ ๑ เป็นมหาจักร
พิจารณาภพที่ ๗ ปัตนิ
คู่ครอง หุ้นส่วน เพศตรงข้าม
ดาวพฤหัสฯ ๕ เจ้าเรือนปัตนิ + พันธุ มาลอยอยู่ในภพปุตตะ ( เป็นนิจ ) คู่ครองและครอบครัว ร่วมกันสร้างฐานะมาด้วยความยากลำบาก จนกระทั่งชีวิตประสบความสำเร็จ
เพราะดาวพฤหัส ๕ ปัตนิ ( เป็นนิจ ) ถูกดาวพุธ ๔ ดาวจันทร์ ๒ ( เกษตร ) ดาวอาทิตย์ ๑ ( มหาจักร ) เล็ง ความหมายเหมือนภพปัตนิ
แต่บนความสำเร็จนั้นทำให้ตัวเอง บุตร ครอบครัว ภรรยา ลำบาก สูญเสีย เสียหาย
เพราะดาวพฤหัสฯ ๕ ( เป็นนิจ ) ลอยอยู่ในภพปุตตะ ดาวเสาร์ ๗ ดาวเจ้าเรือนปุตตะเป็นวินาศ
ตัวเอง เพราะดาวพฤหัสฯ ๕ ตรีโกณกับลัคนา
บุตร เพราะดาวพฤหัสฯ ๕ ลอยอยู่ในภพปุตตะเป็นนิจ
ภรรยา และครอบครัว เพราะดาวพฤหัสฯ ๕ เป็นนิจ เป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ ปุตตะ
พิจารณาภพที่ ๑๐ กัมมะ
กัมมะ ภารกิจ การงาน อาชีพ การดำรงชีวิต
ดาวอาชีพการงานคือดาวพุธ ๔ เป็นเรื่องของบุคลิกภาพ ประชาสัมพันธ์ การสื่อสาร ปฏิภาณไหวพริบ ความแคล่วคล่อง พุธเป็นดาวเดินเร็ว
ดาวพุธ ๔ เป็นดาวธาตุน้ำ ตนุ + กัมมะ การประกอบอาชีพการงานต้องเป็นเจ้าของเอง หรือทำด้วยตัวเอง และประสบความสำเร็จ เพราะมาลอยอยู่ในภพลาภะ ( ความสำเร็จ ) ราศีกรกฎ ต้นแม่ธาตุน้ำ ดาวธาตุน้ำ ลอยอยู่ในราศีแม่ธาตุน้ำ เป็นจรราศี
พิจารณาดาว ๔ ดาวกัมมะ
มุมดาวกุม ดาวจันทร์ ๒ ( เป็นเกษตร ) กุมดาวพุธ ๔ เป็นดาวคู่มิตร ได้รับความช่วยเหลือ
ดาวอาทิตย์ ๑ ( เป็นมหาจักร ) กุมดาวพุธ ๔ เป็นดาวคู่ปฏิภาณไหวพริบชั้นเชิง
คู่ผูกพันคู่สัญญา บนความสำเร็จมีความผูกพันมีสัญญาซ่อนเร้นอยู่เพราะดาวอา
ทิตย์ ๑ มาจากภพวินาศ เป็นมหาจักร แสดงว่าเป็นคนมีตำแหน่งมีอำนาจ เป็น
ต่างชาติด้วย ( วินาศ ) แถมเป็นสัญญาที่ปิดบังซ่อนเร้นอีกด้วย
คำถามสุดท้ายเงินมีไหม
ดาวเจ้าเรือนกดุมพะ คือดาวศุกร์ ๖
ดาวศุกร์ ๖ เป็นดาวเจ้าเรือน กดุมพะ + ศุภะ มาลอยอยู่ในภพวินาศ เงินมีจะได้จากชาวต่างชาติ ได้จากชื่อเสียงเครดิตของตัวเอง แต่จะหมดไปเพราะลอยอยู่ในภพวินาศ หรือเก็บไว้ซ่อนไว้ หรืออยู่ในต่างประเทศ
ถามว่าเยอะไหม ตอบว่าเยอะ เพราะดาวศุกร์ ๖ ลอยอยู่ในราศีสิงห์เรือนของอาทิตย์ ๑ เป็นคู่สมพล อาทิตย์ ๑ ( เป็นมหาจักร ) ในภพลาภะ
พิจารณามุมดาวศุกร์ ๖
ดาวศุกร์ ๖ ดาวการเงิน กุมดาวเสาร์ ๗ ( ๖ + ๗ ) ดาวคู่ศัตรู การเงินมีปัญหา มีความผันผวน เพราะดาวเกตุ ๙ อยู่ในเรือนดาวศุกร์ ๖ หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ เพราะดาวเกตุ ๙ หมายถึงชาวต่างชาติ เป็นเรื่องปิดบังซ่อนเร้น เพราะดาวเกตุ ๙ หมายถึงลึกลับ
ดาวพฤหัส ๕ ลอยอยู่ในภาพปุตตะเป็นนิจ ชีวิตจะต้องเสียหาย เสียชื่อเสียงเพราะเรื่องหุ้น เพราะปุตตะแปลว่าหุ้น เสียหายถึงครอบครัว บุตร และคู่ครอง เพราะดาวพฤหัส ๕ เป็นดาวเจ้าเรือน พันธุ ปัตนิ และลอยอยู่ในภพปุตตะ